• Sun. Apr 28th, 2024

ฐานทัพสหรัฐฯ ในซีเรียถูกกลุ่มIR ใช้โดรนถล่ม

0 0
Read Time:8 Minute, 25 Second

หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้โจมตีฐานทัพต่างๆ ของสหรัฐฯ ในภูมิภาค เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอลทำสงครามในฉนวนกาซา

ซึ่งการโจมตีที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นบริเวณทาวเวอร์ 22 ในจอร์แดน ทำให้ทหารสหรัฐฯ เสียชีวิตสามนาย บาดเจ็บหนักอีกกว่า 40 นาย และหลังจากสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการโจมตีไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดกลุ่มติดอาวุธได้เปิดฉากโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ อีกครั้งคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้

อิสราเอลยิงขีปนาวุธใส่ซีเรีย สังหารหัวหน้าข่าวกรองอิหร่าน

รัฐบาลสหรัฐฯ ไฟเขียวถล่มกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนในอิรัก-ซีเรีย

วันนี้ 5 ก.พ. IRNA สำนักข่าวของรัฐบาลอิหร่านรายงานว่า กลุ่มอิสลามิก รีซิสแทนซ์ ได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการส่งโดรนโจมตีแหล่งน้ำมันอัล-โอมาร์ ของสหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้ามืดตามเวลาท้องถิ่นอย่างไรก็ดี ตอนนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการโจมตีที่เกิดขึ้น

อัล-โอมาร์ เป็นทั้งแหล่งน้ำมันและฐานทัพที่สำคัญของสหรัฐฯ ในซีเรีย ตั้งอยู่ในทะเลทรายอัล-ตัต จังหวัดเดร์ เรซ-ซูร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนี่เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ฐานทัพและแหล่งน้ำมันอัล-โอมาร์เป็นที่รู้จักในฐานะฐานทัพทหารสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในซีเรีย

ขณะเดียวกัน แหล่งน้ำมันแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในซีเรียเช่นกันโดยในช่วงก่อนที่จะเกิดสงครามกลางเมือง แหล่งน้ำมันอัล-โอมาร์สามารถผลิตน้ำมันได้ประมาณ 30,000 บาร์เรลต่อวัน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สื่อของรัฐบาลซีเรียและรัสเซียพยายามนำเสนอการปรากฏตัวของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ว่าเป็นความพยายามขโมยน้ำมันของซีเรีย

อย่างไรก็ดี มูซาฮิม อัล-ซัลลูม นักวิจัยด้านตะวันออกกลางที่อยู่ในซีเรียระบุว่า ข้อกล่าวหาพยายามขโมยน้ำมันดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง และฐานทัพแห่งนี้เป็นภาระสำหรับสหรัฐฯ มากกว่าที่จะเป็นข้อดี

เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่จากบ่อน้ำมัน ตกไปอยู่ในมือของกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทางการตุรกี หนึ่งในอีกพันธมิตรของสหรัฐฯ ต้องการกำจัด เพราะเป็นภัยความมั่นคงประเทศ

นอกจากการเป็นแหล่งพลังงานแล้ว ฐานทัพและแหล่งน้ำมันอัล-โอมาร์ ยังมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์สำหรับปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้เช่นกัน เนื่องจากองค์ประกอบทางสังคมของพื้นที่รอบๆ เป็นฐานที่มั่นของ อัล-อาไกดัต กลุ่มติดอาวุธกลุ่มใหญ่ที่สุดในพื้นที่

ขณะเดียวกัน ฐานทัพอัล-โอมาร์ ยังอยู่ตรงกลางของทุกพื้นที่ที่สหรัฐฯ ต้องปฏิบัติการในภูมิภาค เช่น เมืองอัล-บูคามาล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านในเดร์ เรซซูร์

ขณะที่เขตอัล-บากูซ และอัล-บูซิรา คือพื้นที่ที่เป็นจุดสำหรับใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอส (IS) การโจมตีครั้งล่าสุดถือเป็นการโจมตีครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ และถือเป็นการกดดันทหารสหรัฐฯ ที่อยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่ม IR ได้มุ่งเป้าโจมตีไปที่ฐานทัพสหรัฐฯ 4 แห่งในซีเรียได้แก่ เอน อัล-อาซาด, ฮารีร์, คารับ อัล-ญีร์ และโคนาโค เพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ในซีเรียและอิรัก

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1 bombers หนึ่งในสามเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใหญ่ที่สุดของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ถูกส่งออกจากฐานทัพดายส์ในรัฐเท็กซัส เข้าโจมตีเป้าหมายด้วยระเบิดนำวิถีความแม่นยำสูงจากระยะไกลใส่คลังเก็บอาวุธและศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ของกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน

คุดส์ เป็นกองกำลังที่ปฏิบัติการนอกประเทศและให้การสนับสนุนด้านต่างๆ แก่กลุ่มติดอาวุธอิสลามจีฮัด 85 จุดในอิรักและซีเรีย

ข้อมูลล่าสุดจากสื่อของซีเรียอ้างว่า การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายและบาดเจ็บ 4 คนในขณะที่ฝั่งอิรัก มีผู้เสียชีวิต 16 ราย บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 25 คน

หลังเกิดเหตุโจมตี เมื่อวานนี้กลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์ในอิรัก ได้มารวมตัวกันที่กรุงแบกแดก เพื่อไว้อาลัยและฝังร่างนักรบที่เสียชีวิตจากการโจมตีของสหรัฐฯ

ฮาดี อัล-อามิรี หัวหน้าองค์กรบาดร์ องค์กรกึ่งทหารของกลุ่มอิสลามิสต์ชีอะฮ์ในอิรัก ได้ระบุว่า ทหารสหรัฐฯ ต้องถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ และการคงอยู่ของทหารสหรัฐฯ ถือเป็นความชั่วร้ายอย่างยิ่งต่อชาวอิรัก องค์กรบาดร์เป็นทั้งองค์กรและพรรคการเมืองสายมุสลิมชีอะห์

ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 โดยเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอิหร่าน ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานทหารของสภาสูงสุดเพื่อการปฏิวัติอิสลามในอิรัก (SCIRI) ซึ่งเป็นพรรคอิสลามนิกายชีอะห์ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในอิหร่าน

เป้าหมายแรกการสร้างกลุ่มนี้ คือ เพื่อต่อสู้กับระบอบการปกครองของซัดดัม ฮุสเซนในช่วงสงครามอิหร่าน-อิรัก

ปัจจุบัน องค์กรบาดร์มีสมาชิกประมาณ 10,000-50,000 คน และเป็นศัตรูกับกลุ่ม IS กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย และกลุ่มเพชเมกาของชาวเคิร์ดในเมืองเออร์บิลของอิรัก ในช่วงเวลาที่มีการข่มขู่โดยองค์กรบาดร์

เมื่อวานนี้ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ออกมาระบุว่า การทิ้งระเบิดด้วยเครื่องบิน B1 Lancer เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือเป็นปฏิบัติการระลอกแรกเท่านั้น สหรัฐฯ ยังมีปฏิบัติการขั้นต่อไปอีก ซึ่งจะมีทั้งที่เปิดเผยต่อสาธารณชนและเป็นปฏิบัติการลับ

นอกจากนี้ ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ย้ำชัดว่า สหรัฐฯ เตรียมพร้อมตอบโต้ หากมีการโจมตีเกิดขึ้นอีกในอนาคต

หลายฝ่ายติดตามท่าทีและมาตรการของสหรัฐฯ หลังจากนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากแม้สหรัฐฯ จะใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธในอิรักและซีเรียชุดใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ผล เพราะกลุ่ม IR ยังคงโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคซ้ำอีก

นอกจากกลุ่ม IR แล้ว อีกกลุ่มที่สหรัฐฯ โจมตีคือ กลุ่มกบฏฮูตี ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา กลุ่มกบฏฮูตีได้พยายามโจมตีสหรัฐฯ ด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างหนัก ทำให้สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และชาติพันธมิตร ต้องเปิดปฏิบัติการโจมตีโต้กลับฐานที่มั่นบนแผ่นดินเยเมน

อย่างไรก็ดี กลุ่มกบฏฮูตียังไม่ละความพยายามในการโจมตีเรือในทะเลแดง ทำให้สหรัฐฯ ต้องโจมตีเป้าหมายที่เป็นขีปนาวุธของกลุ่มกบฏฮูตีซ้ำอีกรอบ

ภาพการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากเรือรบยูเอสเอส เกรฟลี ยูเอสเอส คาร์นีย์ และยูเอสเอส ดไวท์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ที่หน่วยบัญชาการทหารสหรัฐภาคกลาง เผยแพร่ออกมา

โดยระบุว่าเป็นการสนับสนุนการโจมตีเป้าหมายกลุ่มกบฏฮูตี ภาพการโจมตีดังกล่าวถูกเผยแพร่ ก่อนที่ในอีก 3 ชั่วโมงต่อมา U.S.Central Command จะโพสต์ข้อความผ่านบัญชีแอปพลิเคชัน X ระบุว่า ในช่วงเวลา 05.30 นาฬิกาของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น U.S.Central Command ได้โจมตีสกัดขีปนาวุธร่อนของกลุ่มกบฏฮูตี

หลังจากนั้นอีกประมาณ 5 ชั่วโมงต่อมา หรือเวลาประมาณ 10.30 นาฬิกา สหรัฐฯก็ได้โจมตีระลอก 2 ใส่เป้าหมาย ที่เป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือจำนวน 4 ลำของกลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งถูกเตรียมไว้เพื่อโจมตีเรือในทะเลแดง

ภาพการยิงขีปนาวุธจากเรือและรายงานการโจมตีของ U.S. Central Command เกิดขึ้นต่อเนื่อง หลังจากสหราชอาณาจักรได้จากปล่อยภาพเครื่องบินรบไทฟูน ออกจากไซปรัส เพื่อโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีเมื่อสองวันก่อน

ภาพที่ถูกเผยแพร่โดยกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นภาพขณะที่เครื่องบินรบยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน พร้อมด้วยเครื่องบินเติมน้ำมันสนับสนุนรุ่นโวยาเจอร์ เคซี 2 และ เคซี 3 กำลังวิ่งออกจากรันเวย์สนามบินแห่งหนึ่ง เพื่อโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน

หลายฝ่ายคาดว่า ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน น่าจะขึ้นบินจากสนามบินแห่งหนึ่งบนเกาะไซปรัสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอยู่ไกลจากทะเลแดง เพราะต้องมีเครื่องบินเติมน้ำมันตามไปด้วย

ปฏิบัติการโจมตีฮูตีเป็นการร่วมระหว่างกองทัพสหรัฐฯ กองทัพสหราชอาณาจักร และได้รับการสนับสนุนจากออสเตรเลีย บาห์เรน แคนาดา เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ เพื่อโจมตีเป้าหมายของกลุ่มกบฏฮูตี 36 เป้าหมายใน 13 ตำแหน่งบนแผ่นดินเยเมน

เป้าหมายส่วนใหญ่เป็นสถานที่จัดเก็บอาวุธใต้ดิน ฐานออกคำสั่งและการควบคุมการโจมตี ระบบขีปนาวุธ พื้นที่จัดเก็บอากาศยานไร้คนขับ ระบบเรดาร์ และเฮลิคอปเตอร์

การเปิดฉากโจมตีเพื่อลดศัยภาพทางการทหารของฮูตี หลังจากกลุ่มดังกล่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญของโลกต่อเนื่องมากว่า 3 เดือนแล้ว

ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ได้ออกมาย้ำชัดเจนว่า การโจมตีของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร พร้อมด้วยพันธมิตร ใส่เป้าหมายของกลุ่มกบฏฮูตี ถือเป็นการป้องกันตนเองและเสรีภาพในการเดินเรือ หลังจากที่ถูกโจมตีถล่มไปถึง 13 ตำแหน่ง

เมื่อวานนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนกบฏฮูตี ได้ออกมาเดินขบวนพาเหรดเพื่อให้กำลังใจกับกลุ่มกบฏฮูตี ขบวนพาเหรดถูกจัดขึ้นในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน บรรดาผู้สนับสนุนได้เดินสวนสนามพร้อมถือธงเยเมน และรูปของอับเดล-มาลิค อัล-ฮูตี ผู้นำสูงสุดกลุ่มกบฏฮูตี

ขณะเดียวกัน ขบวนพาเหรดยังได้จัดแสดงอาวุธต่างๆ ทั้งปืนกลเบา ปืนใหญ่ ปืนกลต่อต้านอากาศยาน รวมถึงเครื่องยิงระเบิด RPG เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนว่าพร้อมสู้กับกองทัพสหรัฐฯ ที่จะเข้ามาโจมตีแผ่นดินเยเมน

"9 ของไหว้ตรุษจีน" เช็กอาหารคาว-หวาน-ผลไม้มีอะไรบ้าง พร้อมความหมาย

เช็กสถิติหวยออกย้อนหลัง 15 ปี งวดประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์

ประกาศฉบับที่ 1 เตือนอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin